สแตนเลสกลุ่มออสเตนนิติค (Austenitic) เป็นสแตนเลสชนิดแรกที่มีจุดเด่นที่ ความทนทานต่อการกัดกร่อน สามารถขึ้นรูปได้ดี สามารถนำมาใช้กับงานที่ต้องการความสะอาด และมีคุณสมบัติที่แม่เหล็กดูดไม่ติด ตัวอย่างของอุปกรณ์ที่ใช้สแตนเลสชนิดนี้คือ อุปกรณ์ครัว เครื่องใช้ สำหรับสแตนเลสประเภทนี้จะมีส่วนผสมของโครเมี่ยมประมาณ 16% คาร์บอนไม่เกิน 0. 15% และนิกเกิลประมาณอีก 8% ตัวอย่างของสแตนเลสชนิดนี้คือ SS200, SS304 โดยที่เกรด SS304 มักจะเป็นเกรดที่นิยมใช้งานมากที่สุด 2. สแตนเลสกลุ่มเฟอร์ริติค (Ferritic) สแตนเลสกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่พบเห็นการใช้งานได้มากรองลงมา สามารถทนความร้อนได้สูง ทนต่อการกัดกร่อน แม่เหล็กดูดติดได้ มักนำมาผลิตเป็นเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ ถังน้ำ เครื่องครัว สำหรับสแตนเลสกลุ่มนี้จะมีส่วนประกอบเป็นโครเมี่ยมประมาณ 10. 5 – 27% มีคาร์บอนเล็กน้อย และนิกเกิลเล็กน้อยหรือไม่มีเลย 3. สแตนเลสกลุ่มมาร์เทนซิติค (Martensitic) เป็นสแตนเลสกลุ่มที่มีจุดเด่นที่ ความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ทนต่อการกัดกร่อนได้ปานกลาง แม่เหล็กสามารถดูดติดได้ แต่ก็มีข้อจำกัดในการเชื่อม สำหรับแสตนเลสกลุ่มนี้จะมีส่วนประกอบเป็นโครเมี่ยมประมาณ 12 – 14% คาร์บอนผสมอยู่ปานกลาง และลิบดินัม 0.
ปัจจุบันนี้ อุปกรณ์เครื่องใช้ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน นอกจากพลาสติกแล้ว หลายๆชิ้นมักจะมีโลหะเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็น อลูมิเนียม เหล็ก และอื่นๆ แต่วัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษที่เราจะมาคุยกันในวันนี้ก็คือ สแตนเลส สแตนเลส สตีล คืออะไร?
2 – 1% และไม่ได้ผสมนิกเกิล 4. สแตนเลสกลุ่มดูเพล็กซ์ (Duplex Stainless Steel) เป็นสแตนเลสกลุ่มที่มีจุดเด่นที่ ความทนทานต่อการกัดกร่อนและการแตกร้าวได้ดีมาก ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีกรดหรือด่าง เช่น บรรยากาศแวดล้อมที่มีคลอไรด์ ใช้งานได้ดีกับงานเชื่อมและขึ้นรูป สำหรับสแตนเลสกลุ่มนี้จะมีส่วนผสมเป็น โครเมี่ยมประมาณ 19 – 28% โมลิบดินั่มมากกว่า 5% และนิกเกิล 5. สแตนเลสที่เพิ่มความแข็งด้วยการตกผลึก เป็นสแตนเลสกลุ่มที่มีจุดเด่นด้าน ความแข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อน สามารถขึ้นรูปและชุบแข็งได้ง่าย จึงถูกมักมาสร้างเป็นแกนของสิ่งต่างๆ อาทิเช่น ปั้ม หัววาล์ว สำหรับสแตนเลสกลุ่มนี้จะมีส่วนผสมเป็นโครเมี่ยมประมาณ 17% นิกเกิล 4% และใส่ไนโอเบียมกับทองแดงเล็กน้อย สินค้า เคเบิ้ลแกลนแสตนเลส ของเราก็ได้รับการผลิตขึ้นจากสแตนเลส 304 เช่นกัน ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่า ทนทานไม่เป็นสนิม ที่มา: สินค้าใกล้เคียง
กลุ่มเฟอร์ริติค (Ferritic) เป็นสแตนเลสที่ใช้งานมากเป็นลำดับถัดมา มีส่วนผสมของคาร์บอนต่ำ โดยจะใช้โครเมียมเป็นส่วนผสมหลักอยู่ระหว่าง 10. 5–27% และมินิกเกิ้ลผสมอยู่เล็กน้อย หรือไม่มีเลย สแตนเลสชนิดนี้มักจะนำไปใช้ในการผลิต ถังน้ำ เครื่องครัว เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น คุณสมบัติของสแตนเลสสตีลกลุ่ม เฟอร์ริติค ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี ต้านทานการกัดกร่อนใต้แรงเค้นได้ดีกว่า ออสเทนนิติก มีข้อจำกัดในการขึ้นรูป ไม่สามารถชุบแข็งได้ ทนอุณหภูมิได้สูง ถึง 850°C แม่เหล็กดูดติด รุ่นสแตนเลสที่พบได้ในกลุ่ม เฟอร์ริติค คือ 430, 430Ti, 439, 409 3. กลุ่มมาร์เทนซิติค (Martensitic) เป็นแสตนเลสที่ผลิตจากโครเมียมประมาณ 12 -14% คาร์บอนประมาณ 0. 1–1% นิกเกิล 0–2% และลิบดินัม 0. 2–1% ซึ่งผลที่ออกมาสแตนเลสชนิดนี้จะมีความทนทานที่มากขึ้น เพื่อให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น คุณสมบัติของสแตนเลสสตีลกลุ่ม มาร์เทนซิติค มีความต้านทานการกัดกร่อนปานกลาง สามารถปรับความแข็งแรงได้ ใช้ในงานอุณหภูมิสูงได้ถึง 593°C มีข้อจำกัดในการเชื่อม เนื่องจากมีคาร์บอนสูง 4. กลุ่มดูเพล็กซ์ (Duplex Stainless Steel) เป็นสแตนเลสมีโครงสร้างที่ผสมระหว่างเฟอร์ไรต์ และออสตไนต์ โดยมีโครเมียมผสมอยู่ประมาณ 19–28% โมลิบดินัมมากกว่า 5% และมีนิกเกิลน้อยกว่า ออสเทนนิติค ซึ่งสแตนเลสชนิดนี้มีความต้านทานต่อการแตกร้าน และการกัดกร่อนได้ดีมาก สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดหรือด่าง คุณสมบัติของสแตนเลสสตีลกลุ่ม ดูเพล็กซ์ ทนต่อคลอไรด์ ทำให้ใช้ได้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดหรือด่าง ต้านทานต่อการกัดกร่อน ใช้ในงานเชื่อมและการขึ้นรูปได้ดี 5.
คือ เหล็กกล้าประสมพิเศษ (Special Alloy Steel) ถูกพัฒนาให้มีความทนทานต่อการกัดกร่อน โดยมีการเพิ่มธาตุโครเมี่ยม (Chromium) ขั้นต่ำ 11% ข้อแตกแต่ระหว่าง "สแตนเลสสตีล หรือ เหล็กกล้าไร้สนิม" (Stainless Steel Alloy) กับ "เหล็ก" (Steel) หากเปลียนจากการเพิ่มธาตุโครเมี่ยม (Chromium) เป็น นิกเกิ้ล (Nickel), โมบิลินั่ม (Molybdenum), ไทเทเนียม (Titanium) และ ไนโอเบี่ยม (Niobium) จะทำให้คุณสมบัติทางกล และคุณสมบัติกายภาพ เปลี่ยนเป็น เหล็ก สแตนเลสสตีล หรือ เหล็กกล้าไร้สนิม ( Stainless Steel Alloy) แบ่งออกเป็น 5 ประเภท 1.