8 x 22. 7 x 12. 5 มิลลิเมตร การเชื่อมต่อ: Bluetooth 4. 0 ขนาด: 35. 8mm l x 22. 7mm w x 12.
5-4 ชั่วโมง และสามารถเปิดเล่นเพลงได้นานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง นอกจากนี้มันยังสามารถเอาสาย USB มาเสียบเพื่อปล่อยกระแสไฟไปชาร์จสมาร์ทโฟนด้วยกำลังไฟ 5V 2. 1A พูดง่ายๆ คือมันทำงานเป็น Power Bank ไปด้วยในตัว ถือว่ามีประโยชน์มากเวลาที่เอาออกไปใช้งานนอกสถานที่ นอกจากจะใช้งานต่อเนื่องได้นานแล้ว ยังชาร์จแบตฯ ให้มือถือไปพร้อมๆ กันได้ด้วย ลำโพงไร้สายที่กันน้ำได้! อีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นที่เพิ่มเติมขึ้นมาในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ของ JBL ในปีนี้ และใน JBL Charge 2+ เองก็มีด้วยเช่นกัน นั่นก็คือมันสามารถ "กันน้ำได้" (Splashproof) ซึ่งหาไม่ค่อยจะมีกันในอุปกรณ์ประเภทลำโพงไร้สายแบบพกพา แต่ว่าต้องปรับทัศนคติกันก่อนเลยเกี่ยวกับคำว่า "กันน้ำ" นั้นมีขอบเขตอยู่ที่การโดนน้ำสาด, ละอองน้ำ, ฝนตก หรือว่าตกลงไปในสระน้ำแล้วรีบเอาขึ้นมา และหลังจากที่โดนน้ำก็ควรทำให้แห้งด้วยการเช็ดหรือเป่าด้วยลมร้อนเบาๆ จนแห้ง ดังนั้นมันไม่ใช่ลำโพงสำหรับเอาไปแช่น้ำ หรือว่าฟังใต้น้ำ (จะเอาลงไปให้ปลาการ์ตูนฟังเร๊อะ!! )
0 A2DP V1. 3, AVRCP V1. 5, HFP V1. 6, HSP V1. 2 Power Supply: 5VDC USB output: 5V 2. 1A (maximum) Battery Type: Lithium-ion Polymer (3. 7V, 6000 mAh) Battery Charge Time: 4 hrs @ 1. 8A Music Playing Time: up to 12 hours (varies by volume level and audio content) Bluetooth Transmitter Power: 0-4 dBm Bluetooth Transmitter Frequency Range: 2. 402 – 2. 480 GHz Bluetooth Transmitter Modulation: GFSK, π/4 DQPSK, 8DPSK Audio: Signal-to-Noise Ratio: >80 Frequency Response Speaker: Transducer 2 x 45mm Dimensions 79 x 79 x 185. 2mm Weight 600g ราคาขายของ JBL Charge 2+ อยู่ที่ 6, 590 บาท สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมที่ และทาง Facebook MahajakLifestyle ร่วมแสดงความคิดเห็น ความเห็น > JBL
Quick Charge และ USB Power Delivery (PD) คืออะไร? ต่างกันอย่างไร? ด้วยความที่การใช้งานสมาร์ทโฟน (Smartphone) แล็ปท็อป หรือ โน้ตบุ๊ค (Laptop or Notebook) หรือแม้แต่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่มีการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะมีการพัฒนาความจุของแบตเตอรี่ให้สูงกว่าแต่ก่อน แต่ด้วยการที่เราใช้งานมันอย่างหนักหน่วง ทำให้เราต้องชาร์จมันทุกวันอยู่ดี บทความเกี่ยวกับ USB อื่นๆ ซึ่งก็มีการคิดค้นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การชาร์จแบตเตอรี่ทำได้อย่างรวดเร็วออกมามากมาย เช่น Flash charge, Adaptive Fast Charging, VOOC ฯลฯ แต่มาตรฐานที่ถูกใช้งานบ่อยที่สุดในขณะนี้ (ปี ค. ศ. 2020 (พ. 2563) ก็คงต้องพูดถึงเทคโนโลยี Quick Charge ของ Qualcomm และ USB Power Delivery (USB-PD) จาก USB Implementers Forum หรือเรียกสั้นๆ ว่า USB-IF (กลุ่มผู้พัฒนามาตรฐาน USB) ทั้งสองมาตรฐานนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไร มาหาคำตอบกันหน่อยดีกว่า เกร็ดความรู้: หลักการในการเร่งความเร็วในการชาร์จพลังงานให้แบตเตอรี่ จะใช้วิธีการเพิ่มกำลังวัตต์ให้สูงขึ้น เทคโนโลยีชาร์จไว (Quick Charge Technology) คืออะไร?
ที่ถึงจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่แลกมากับน้ำหนักเบาสุดขั้ว ย่านเสียงที่ได้ครบทุกช่วงไม่ว่าจะเป็นดนตรีหรือนักร้อง ส่วนเบสถึงแม้จะอ่อนไปนิดก็ตาม แต่โดยรวมทำออกมาได้ค่อนข้าง "กลมกล่อม" เมื่อเทียบกับหูฟัง Apple In-Ear Headphones ที่มีราคาใกล้เคียงกัน JBL ทำได้ดีกว่า "มาก" โดยไม่ต้องสงสัย ดูสินค้าอื่นเพิ่มเติมได้ที่: