คุณอยากเปลี่ยนสายงาน เป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้านายคุณเห็นใจและเข้าอกเข้าใจเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณ เช่น คุณทำงานในตำแหน่งนักขายแต่รู้สึกว่าสิ่งที่คุณทำอยู่นั้นไม่ใช่ตัวตนของคุณ ถึงแม้ว่าผลงานใช้ได้ก็ตามที คุณอาจจะอยากทำงานด้านการตลาดมากกว่าการขาย คุณจึงบอกหัวหน้าไปตรงๆ ว่าคุณต้องการเปลี่ยนงานไปทำสิ่งที่คุณชื่นชอบหรือเป็นแพชชั่นที่แท้จริงของคุณมากกว่า เหตุผลนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมาและหัวหน้าโน้มน้าวให้คุณกลับมาทำงานขายเหมือนเดิมได้ยากมาก เป็นต้น เหตุผลนี้เอาไว้ใช้กับการทำงานที่รู้ตัวว่าผลงานไม่ดีจึงขอลาออกเพื่อไปเริ่มต้นกับที่ใหม่ก็ได้ 4. คุณต้องการเวลาเพื่อเรียนต่อ เป็นเหตุผลที่ถึงแม้ว่าคุณจะไปเรียนจริงหรือไม่เรียนจริง (ฮา) ก็ยังใช้ได้ผลอยู่เสมอ เพราะคุณสามารถพูดได้ว่าการเรียนต่อปริญญาโททั้งในและต่างประเทศเพื่อยกระดับวุฒิการศึกษาของคุณ การเรียนในหลักสูตรมาตรฐานจำเป็นต้องอุทิศเวลาในการศึกษาร่ำเรียนเป็นอย่างมาก โดยคุณสามารถบอกหัวหน้าได้อีกว่าถ้าเรียนจบแล้วก็จะกลับมาทำงานกับพวกเขา ซึ่งจริงๆ แล้วอาจจะกลับมาทำหรือไปทำบริษัทอื่นก็ได้ 5.
คำถามสำคัญที่ต้องถูกถามเพื่อให้เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของการลาออกจากบริษัท และเพื่อการวางแผนแก้ปัญหานี้ ถ้าการลาออกของเราเกิดขึ้นเพราะความกดดัน เช่น มีปัญหากับหัวหน้าฝ่าย, ไม่ลงรอยกับเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่ต้องการได้เงินเดือนที่มากขึ้นก็ควรบอกออกไปตรง ๆ ความต้องการหลักของบริษัทคือการพยายามรักษาพนักงานให้อยู่ได้นาน และคำตอบของเราจะมีส่วนช่วยให้บริษัทปรับปรุงจุดนี้ได้เป็นอย่างดี ความสัมพันธ์กับหัวหน้าหรือคนในทีมเป็นยังไง? ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมทีมและหัวหน้าจะเป็นจุดหลัก ๆ ให้บริษัทรู้ได้ว่าบรรยากาศในการทำงานนั้นเป็นอย่างไร ดีหรือแย่แค่ไหน และจะได้รู้เช่นกันว่าเรารู้สึกกับทีมและหัวหน้าอย่างไรบ้าง แต่ก็อย่าเพียงแค่บ่นเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าเท่านั้น เราควรมีข้อเสนอแนะให้พวกเขาได้ปรับปรุงด้วยเช่นกัน ชอบหรือไม่ชอบอะไรในบริษัท? เป็นคำถามกว้าง ๆ เพื่อสอบถามความคิดเห็นที่มักอยู่ในคำถามก่อนลาออก เราจะพูดถึงสิ่งที่ชอบจากมุมมองการทำงานก็ได้ เช่น มีพื้นที่นั่งพักผ่อน, มีห้องเล่นเกมและออกกำลังกาย หรือบรรยากาศการทำงานดี ส่วนมุมที่ไม่ชอบอาจพูดถึง บรรยากาศการทำงานไม่ดี, หัวหน้าชอบไล่บี้งาน, เวลาพักน้อย หรือมีเมนูอาหารน้อยไป ก็สามารถเป็นตัวเลือกในการใส่ไว้ใน Exit interview ได้เหมือนกัน 3 สิ่งที่บริษัทควรพัฒนา?
08 ต. ค. 64 09:36น. 2021-10-08 infoquest ปธน. โจ ไบเดน แห่งสหรัฐเรียกร้องให้บริษัทขนาดใหญ่และองค์กรอื่น ๆ ดำเนินการตามข้อบังคับของรัฐบาลฉบับใหม่ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งได้จุดชนวนให้เกิดความกังวลและการตอบโต้ ปธน. ไบเดนกล่าวว่า "ข้อกำหนดเหล่านี้ใช้ได้ผล ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น และช่วยชีวิตผู้คนไว้ได้จำนวนมาก" คำกล่าวของปธน. ไบเดนมีขึ้นในระหว่างเดินทางเยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้างภายใต้การบริหารงานของบริษัท Clayco โดยบริษัทประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จะดำเนินการตามข้อกำหนดการฉีดวัคซีนหรือทำการทดสอบเชื้อสำหรับพนักงานในอนาคต "เราต้องเอาชนะสิ่งนี้" ปธน. ไบเดนกล่าว "นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องผลักดันข้อกำหนดให้ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งผมมีอำนาจที่จะทำอย่างนั้นได้" เมื่อเดือนก. ย. ที่ผ่านมา ปธน. ไบเดนได้ออกข้อกำหนดการฉีดวัคซีนของรัฐบาลกลางฉบับใหม่ซึ่งครอบคลุมถึงชาวอเมริกันมากถึง 100 ล้านคน รวมถึงพนักงานภาคเอกชน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้รับเหมาของรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ตาม ข้อบังคับดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากพรรครีพับลิกันและนักวิจารณ์รายอื่น ๆ ซึ่งโต้แย้งว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการตัดสินใจด้วยตนเองว่าจะฉีดวัคซีนหรือไม่ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์
ย้ายถิ่นฐาน อีกเหตุผลสำคัญหนึ่งของการลาออกก็คือการย้ายถิ่นฐานของพนักงาน ตั้งแต่ย้ายบ้านไปอยู่อีกเขตที่ทำให้เดินทางลำบากขึ้น ครอบครัวต้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด หรือแม้แต่ต้องย้ายไปทำงานต่างประเทศ ก็เป็นเหตุสำคัญที่อาจไม่เกี่ยวกับเรื่องงานโดยตรง แต่ทำให้พนักงานตัดสินใจลาออกได้ 13. กลับไปช่วยธุรกิจของครอบครัว เปิดกิจการเป็นของตัวเอง อีกเหตุผลคลาสสิกทุกยุคทุกสมัยก็คือการถูกเรียกให้กลับไปช่วยบริหารงานธุรกิจของครอบครัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักเป็นเหตุผลส่วนตัวและอาจเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับใครบางคน หรือบางคนต้องการลาออกก็เพื่อที่จะไปทำธุรกิจส่วนตัว เริ่มต้นกิจการของตัวเอง โดยเฉพาะหลังช่วงได้รับเงินก้อนจากโบนัส พนักงานอาจอยากเริ่มต้นธุรกิจใหม่ของตน หรือใช้ประสบการณ์จากการทำงานไปต่อยอดธุรกิจที่ตนเห็นลู่ทางประสบความสำเร็จ 14. เบื่อหน่าย อิ่มตัว งานไม่ท้าทายอีกต่อไป หากพนักงานรู้สึกเบื่อหน่าย สิ้นหวัง ในการทำงาน ประเภทที่ว่าตื่นลืมตามาทุกเช้าแล้วรู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่อยากไปทำงาน เบื่อออฟฟิศ เบื่อความจำเจ เบื่อพฤติกรรมซ้ำเดิม ก็เป็นเหตุให้อยากลาออกได้ หรือบางทีก็เป็นเหตุผลง่ายๆ สุดแสนจะคลาสสิกแต่ทว่าดูเกือบจะไร้เหตุผลอย่าง "ถึงจุดอิ่มตัว" ซึ่งพนักงานบางคนอาจทำงานนั้นมานานจนเกิดความเบื่อหน่าย การลองเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ไปสู่สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ หรือแม้แต่การเปลี่ยนสายงานใหม่ไปเลย ก็อาจเป็นทางออกที่ดีในกรณีนี้เช่นกัน 15.
คำถามสัมภาษณ์งาน "ทำไมคุณถึงคิดจะลาออกจากที่ทำงานเดิม"... ควรจะตอบอย่างไรดี จะตอบยังไงให้ดูดีไม่เว่อเกินไปค่ะ เรื่องจิงๆสาเหตุที่ลาออกคือ 1. ในฝ่ายมีการรับพนักงานใหม่เข้ามาประสบการณ์ และ ตำแหน่งของเค้าสูงกว่าเรา แต่ปรากฏว่าเค้าทำอะไรไม่เป็นเลย หัวหน้าจึงแอบมาสั่งดิฉันลับหลังว่าให้ช่วยดูแลสอนงานกะพนักงานใหม่หน่อย ดิฉันคิดว่าแบบนี้ไม่ยุติธรรมค่ะ ให้คนตำแหน่งต่ำกว่าไปสอนคนที่ควรจะเป็นงานมากกว่า 2. เงินเดือนที่เดิมถูก freeze ค่ะ อยากขอคำปรึกษาว่าถ้าสาเหตุเกิดจากสองอย่างนี้จะตอบยังไงที่จะไม่ดูแรงเกินไปค่ะ ขอบคุณคนที่เข้ามาตอบล่วงหน้าค่ะ แสดงความคิดเห็น
คุณมีข้อเสนอที่ดีกว่างานในปัจจุบัน หากคุณได้รับโอกาสในการเปลี่ยนงานใหม่ คุณสามารถรับข้อเสนอที่ดีจากนายจ้างปัจจุบันของคุณได้ เพราะเป็นประโยชน์เป็นการเจรจาต่อรองทีดีหากคุณมีข้อเสนอทีดีกว่างานที่ทำในปัจจุบัน เพื่อเป็นการยกระดับ ส่งเสริมและได้รับผลประโยชน์อื่นๆโดยไม่ต้องเปลี่ยนงานใหม่ แต่หากคุณไม่ได้รับการตอบรับการเจรจาย่อมเป็นสัญญาณเตือนให้คุณเตรียมพร้อมกับงานใหม่ที่ดีกว่า 10.
คุณเจอโอกาสใหม่ที่ดีกว่า (ได้งานใหม่) เป็นเหตุผลที่เรียบง่ายและไม่ต้องอ้อมค้อมอะไรมาก การพูดไปตรงๆ ว่าคุณได้งานที่ไหนและทำให้คุณรู้สึกอยากไปร่วมงานด้วยอย่างไรคือหนึ่งในเหตุผลที่ดีที่สุด ขออย่างเดียวคือคุณต้องได้รับสัญญาจ้างงานและเซ็นลงนามให้เรียบร้อยก่อนพูด จงบอกหัวหน้าให้สุภาพว่าคุณรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับหัวหน้าของคุณในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่การได้โอกาสใหม่ๆ ก็เป็นสิ่งที่คุณปฎิเสธไม่ได้เช่นกัน สุดท้ายนี้คุณจึงอยากเป็นผู้บอกหัวหน้าเกี่ยวกับความรู้สึกดีๆ และอยากรักษาความสัมพันธ์กับพวกเขาเอาไว้นานๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ร่วมงานกันอีกก็ตาม เหตุผลนี้หล่อมากครับ 2. คุณบรรลุเป้าหมายทุกอย่างในบริษัทนี้แล้ว เป็นเหตุผลที่บ่งบอกให้พวกเขารู้ทางอ้อมว่าคุณ "หมดความท้าทาย" เกี่ยวกับงานที่ทำในปัจจุบันทั้งหมดแล้ว เช่น คุณเป็นท็อปเซลส์ที่มีผลงานยอดเยี่ยมจนมีบริษัทอื่นยื่นตำแหน่งผู้จัดการหรือผู้บริหารฝ่ายขายให้คุณ คุณรู้สึกว่าการทำยอดให้สูงกว่า 100% เป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับคุณ จึงพูดได้เลยว่าคุณรู้สึกอิ่มตัวแล้ว จึงถึงเวลาที่คุณต้องออกไปแสวงหาโอกาสใหม่ๆ กับตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้น เหตุผลนี้ส่วนใหญ่หัวหน้าของคุณจะไม่ยอมเสียคุณไป คุณจึงมีอำนาจต่อรองกับพวกเขาได้และเผลอๆ คุณจะได้ทั้งเงินทั้งตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นโดยไม่ต้องย้ายไปไหนด้วยครับ (ฮา) 3.
ลาออก เพราะ เวลาการทำงานกระทบต่อชีวิตประจำวัน บางคนทำงานเป็นกะ บางที กะเช้า กะเย็น สลับกันตลอดทั้งเดือน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบ ต่อการดำรงชีวิต และ สุขภาพตามมาได้ สำหรับใครที่เริ่มทำงานใหม่ๆ แล้ว ยังปรับตัวไม่ได้กับสถานการณ์นี้ เหตุผลนี้ ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ดี ในการแจ้งลาออก 11. ลาออก เพราะ ต้องมาเลี้ยงลูก เหตุผลนี้ น่าจะเหมาะกับ แม่บ้าน หรือ พ่อบ้าน (สมัยนี้ ผู้ชายก็เลี้ยงลูกอยู่บ้านได้นะจ๊ะ) บางครั้ง ไม่สามี หรือ ภรรยาเรา ไม่สามารถดูแลเลี้ยงลูกได้ ก็อาจจำเป็นที่จะต้องลาออกมาเลี้ยงลูก เป็นเหตุผลที่ดี ในการเขียน ใบลาออก ค่ะ 12. ลาออก เพราะ เดินทางมาทำงานไม่สะดวก ถึงแม้ว่า บางบริษัท เงินเดือน จะดี สวัสดีการครบครัน แต่คุณต้องตื่นตี 3 ไปที่ทำงาน รถติดขาไปอีก 1 ชั่วโมง ขากลับอีก 1 ชั่วโมง ถ้าวันไหนทำโอที อีก ขอบอกเลยว่า เวลาจะนอน แทบจะไม่มี เลยทำให้ หลายๆคน อยากที่จะทำงานใกล้บ้านมากกว่า และ เอาชีวิตที่สุขภาพดี กลับคืนมา เหตุผลนี้ ก็เป็นเหตุผลที่ดี และ มีน้ำหนัก ในการแจ้งลาออกเช่นกันค่ะ 13. ลาออก เพราะ ได้งานใหม่ ตรงตัวเลย อิฉันได้งานใหม่แล้ว ก็เลยแจ้งลาออก เจ้านายเก่า อาจจะถามว่า ได้งานที่ไหน ตำแหน่งอะไร ก็ให้ตอบได้ตรง ไปตรงมา แต่ก็ต้องคำนึงอยู่เสมอว่า ตราบจนวันสุดท้ายที่เรามาทำงาน เราก็จะทำงานให้เต็มที่ อย่าให้ใครมาพูดได้ว่า เอ่อ ก็เค้า จะลาออกแล้ว ได้งานใหม่ ที่ดีกว่า เลยทำงานแบบนี้ ไม่ได้นะคะ เราควรจากที่ทำงานเดิม ด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกันค่ะ 14.
ตัวอย่าง 20 เหตุผล ดีๆ ในการลาออก 20 ตัวอย่าง เหตุผลในการลาออก ดีๆ ที่สามารถบอกกับบริษัทเดิมก็ได้ หรือ บอกกับบริษัทใหม่ เวลาเข้าสัมภาษณ์งานก็ได้ 1. ลาออก เพราะ ต้องกลับมาดูแลครอบครัว เหมาะกับ หลายๆคนที่ คุณพ่อ คุณแม่ มีอายุเยอะแล้ว โดยเฉพาะยิ่งเราเป็นลูกคนเดียว ให้เหตุผลลาออกแบบนี้ เจ้านายเข้าใจแน่นอน แต่อาจจะต้องเตรียมตัวตอบคำถาม สักหน่อยว่า ออกแล้วจะไปทำอะไร 2. ลาออก เพราะ ต้องการเรียนต่อ นี่เป็นเหตุผลลาออก ที่ดีเหตุผลหนึ่ง เพราะทางบริษัทจะ มองว่า เราอยากพัฒนาตนเองตลอด แล้วถ้าเรามีผลการทำงานที่ผ่านมาดี เราสามารถแจ้งได้ว่า ถ้าเราเรียนจบแล้ว เราก็อยากจะกลับมาทำงานที่เดิมอีก 3. ลาออก เพราะ ปัญหาสุขภาพ ถ้าแจ้งลาออกด้วย ปัญหาสุขภาพ อาจจะต้องคิดให้รอบครอบนิดหนึ่งว่า สุขภาพด้านอะไร เพราะไม่ว่าเจ้านายเก่า หรือเจ้านายใหม่ ก็ไม่มีใคร อยากมารับผิดชอบพนักงานที่มีปัญหาสุขภาพ ตั้งแต่ต้น แต่อาจจะเลือกที่จะพูดถึง สุขภาพเรื่องการนอน ในกรณีที่ ทำงานเป็นกะ เป็นต้น 4. ลาออก เพราะ ต้องกลับไปดูแลธุรกิจของครอบครัว เหตุผลนี้ ก็เป็นเหตุผลที่หลายๆคนเข้าใจ โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่ชอบให้ลูกหลานออกมาทำงาน เรียนรู้การทำงานกับผู้อื่น นอกบ้านก่อน พอทำงานไปสักพัก ก็ต้องกลับไป สานต่อ ธุรกิจที่่บ้าน 5.
6. สวัสดิการไม่ดีพอ องค์กรที่ดีมักจะดูแลใส่ใจเรื่องสวัสดิการของพนักงานได้ดีตามไปด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พนักงานอยู่ในองค์กรได้ยืนยาว โดยเฉพาะสวัสดิการเรื่องสุขภาพและการรักษาพยาบาล ที่พนักงานหลายคนเลือกทำงานกับองค์กรที่ดูแลเรื่องนี้อย่างดี หรือแม้แต่สวัสดิการย่อยๆ อย่างค่าเดินทาง, ค่าล่วงเวลา, หรือแม้แต่วันหยุด หากองค์กรให้อย่างไม่คุ้มค่า เอาเปรียบพนักงาน ก็ย่อมทำให้พนักงานอยากลาออกไปยังบริษัทที่ให้สวัสดิการที่ดีและคุ้มค่ากว่า 7. ปัญหาโครงสร้างบริษัท ไม่ใช่แค่เรื่องของคนเท่านั้นแต่ตัวองค์กรเองก็มีผลต่อการลาออกได้เหมือนกัน บางบริษัทมีโครงสร้างงานที่ใหญ่มาก มีตำแหน่งที่เยอะมาก มีทิศทางความก้าวหน้าในอาชีพการงานที่ชัดเจน ก็อาจเป็นแรงจูงใจที่ดีที่ทำให้พนักงานอยากทำงานในองค์กรนี้ไประยะยาว แต่ในทางตรงกันข้ามบริษัทที่ไม่ได้มีการวางแผนผังงานที่ชัดเจน ไม่มีแนวทาง Career Path ของแต่ละตำแหน่งที่เห็นได้ชัด หรือเป็นบริษัทขนาดเล็กที่เห็นได้ชัดว่าไม่มี Career Path แน่นอน ก็อาจทำให้พนักงานไม่เห็นอนาคตความก้าวหน้าของตัวเอง ไม่ตอบโจทย์ความสำเร็จในชีวิต ซึ่งก็อาจทำให้พนักงานลาออกไปหาองค์กรที่มั่นคงกว่า มีแนวโน้มก้าวหน้ากว่าก็เป็นได้ 8.