บางไทร ยังมีอัตราการไหลของน้ำเพียง 2, 130 ลบ. ต่อวินาที แต่ถ้าเมื่อไหร่มีการปล่อยน้ำที่บางไทรถึง 2, 500 ลบ. ต่อวินาที จะทำให้จังหวัดอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กทม. และสมุทรปราการ มีระดับน้ำขึ้นสูงจากเดิม 0. 3-1. 0 เมตร ต้องจับตาดูที่สถานีบางไทร จะชี้ให้เห็นว่า กทม. จะเป็นเช่นไร รศ. เสรี ยืนยันว่า ภัยพิบัติตามธรรมชาติจะมีความรุนแรงมากขึ้นจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นทุกวัน น้ำยิ่งระเหยมากขึ้นจะมีการนำไอน้ำเก็บไว้ในชั้นบรรยากาศ เมื่อถึงฤดูมรสุมจะทำให้น้ำกลั่นมาเป็นฝน และในทุกๆ 1 อุณหภูมิ 1 องศา จะมีปริมาณน้ำในชั้นบรรยากาศ 7-10% ทำให้อนาคตข้างหน้าในฤดูมรสุม ฝนจะตกหนักกว่าปกติ "จะตกหนักกว่าปกติ 1 ถึง 3 เท่า และในช่วงหน้าแล้งจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้น้ำในแหล่งกักเก็บไม่มี ดินจะแตกระแหง ซึ่งจะทำให้แล้ง 2 ถึง 4 เท่า" อีกทั้ง กทม. มีสภาพเป็นแอ่งกระทะ จากการที่เกิดแผ่นดินทรุดเพราะมีการขุดเจาะน้ำบาดาล โดยเฉพาะในโซนตะวันออก ประกอบกับ กทม. ต้องรับทั้ง 3 น้ำคือ น้ำเหนือ น้ำฝนและน้ำหนุน จึงทำให้ กทม. มีภาวะเสี่ยงสูง และเคยมีการเสนอให้มีการย้ายเมืองหลวงโดยรัฐบาล พล. อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในยุค คสช. ได้ให้สภาพัฒน์ไปทำการศึกษาเพื่อย้ายเมืองหลวง กทม.
สุโขทัย จ. ชัยภูมิ โดยเฉพาะที่ อ. บ้านหมี่ และ อ. ท่าวุ้ง จ. ลพบุรี ทำให้สังคมเริ่มมีความกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 หรือไม่? และ กทม. จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันหรือไม่? โดยผู้ที่เกี่ยวข้องคาดการณ์กันว่าด้วยปริมาณน้ำที่มีอยู่ขณะนี้ยังน้อยกว่าเมื่อปี 2554 และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ยังสามารถรองรับได้ และกรมชลประทานได้มีแผนลำเลียงสู่ทุ่งรับน้ำหลากตอนล่างภาคกลาง จำนวน 10 ทุ่ง รวมพื้นที่อาจจะถึง 1 ล้านไร่ไว้น่าจะเพียงพอ ประกอบกับกรมชลประทานได้มีระบบควบคุมการปิดเปิดประตูระบายน้ำ คลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสมุทรปราการ ตามจังหวะขึ้นลงของน้ำทะเลเพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้กรุงเทพฯ น่าจะรอดจากวิกฤตน้ำท่วม หรือถ้าจะมีท่วมบ้างก็จะไม่รุนแรง! รศ. เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และ ศ. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และนายกสภาวิศวกร บอกว่า ในฐานะที่เป็นวิศวกรและเชี่ยวชาญเรื่องน้ำด้วยกัน จึงไม่ได้มองแค่ปริมาณน้ำฝนหรือพายุที่เข้ามาเพียงเท่านั้น แต่จะต้องมองทะลุถึงความเสี่ยงในเรื่องภัยพิบัติตามธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้น และเมื่อมีข้อมูลชี้ชัดว่า กทม.